ศิลปะ 7 แขนง

เมื่อพูดถึงเรื่องของศิลปะคือคำว่าศิลปะเรามักจะนึกถึงความหมายที่กว้างๆเพราะแน่นอนว่าการจำกัดความของคำคำนี้ทำให้เราสามารถคิดถึงเรื่องราวต่างๆได้อย่างมากมายที่สะท้อนถึงความเป็นศิลปะไม่ว่าจะเป็นภาพวาดรูปปั้นโบราณสถานและอื่นๆอีกมากมายซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ก็จัดอยู่ในกลุ่มของศิลปะทั้งสิ้นดังนั้นจึงมีการแบ่งแยกศิลปะออกเป็น 7 แขนงเพื่อให้เราทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้นดังนั้นวันนี้เราไปดูกันว่าศิลปะ 7 แขนงนั้นมีหนังอะไรบ้าง จิตรกรรมหรือภาพเขียนรูปภาพวาดที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยการระบายสีเป็นการจัดให้องค์ประกอบของภาพอยู่ในแบบ 2 มิติโดยที่ผู้วาดภาพจิตรกรรมจะถูกเรียกว่าเศษตะกอนและหนึ่งในกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกก็คือภาพวาดโมนาลิซ่าจึงถือได้ว่าเป็นสิ่งล้ำค่ามากที่สุดของโลกตะวันตก ประติมากรรมคือภาพปั้นเป็นสิ่งที่ใช้อธิบายสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นจากโลหะหินและไม้ส่วนใหญ่แล้วลักษณะของงานประติมากรรมคือภาพที่มีรูปทรง 3 มิติส่วนใหญ่จะถูกนำมาประกอบการสร้างรูปปั้นตามความเชื่อทางศาสนาผลงานประติมากรรมที่สำคัญของไทยคือมูรติส่วนของฝรั่งเศสหรือต่างประเทศคือประตูนรก สถาปัตยกรรมหรืองานก่อสร้างเป็นงานศิลปะอีกแขนงหนึ่งที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านอาคารหรือรื้อโครงสร้างต่างๆรวมไปถึงการตกแต่งภายในดังนั้นในศาสตร์แขนงมีจะมีการใช้ความร้อนต่างๆที่มีประโยชน์ในเรื่องของการตกแต่งเข้ามาร่วมด้วย ภาพพิมพ์คือการสร้างสรรค์คนแม่ทีมเป็นศิลปะอีกประเภทหนึ่งซึ่งเกิดจากการกดของแม่พิมพ์ชนิดต่างๆให้ติดกับกระดาษจนระบายออกมาเป็นภาพพิมพ์มีความคล้ายกับงานจิตรกรรมแต่เราจะต้องใช้แม่พิมพ์ซึ่งเป็นส่วนที่แตกต่างกันจากนั้นจิตรกรรมนั่นเอง สื่อผสมเป็นการผสมผสานระหว่างจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ทั้ง 3 […]

รู้จัก “ศิลปะสร้างสุข” หนังสือดีสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ

วิถีทางศิลปะสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษเป็นเรื่องที่สำคัญที่สังคมปัจจุบันนี้ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษด้วยเช่นกันดังนั้นวันนี้ในเรื่องของศิลปะสร้างสรรค์ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนังสือที่ได้รวบรวมเอาองค์ความรู้ที่ได้จากการดำเนินโครงการศิลปะสร้างสุขเพื่อส่งเสริมและพัฒนาการในการเรียนการสอนสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษถูกนำเอาศิลปะซึ่งเรียกว่าเป็นการนำศาสตร์และศิลป์เข้ามาผสมภาษาในการดูแลเด็กพิเศษและจัดการความต้องการเหล่านั้นอย่างได้ผล หนังสือศิลปะสร้างสุขได้รวบรวมเอาเนื้อหาที่ต้องใช้กับเด็กพิเศษที่แน่นอนว่าไม่เพียงแค่เราจะสามารถนำไปใช้กับตัวเด็กได้เท่านั้นแต่พ่อแม่ครูและผู้ปกครองที่อยู่ใกล้ชิดกับเด็กที่มีความต้องการพิเศษยังสามารถนำแนวคิดรวมไปถึงรูปแบบกิจกรรมต่างๆที่ถูกเรียบเรียงและรวบรวมเอาไว้ในหนังสือเล่มนี้ไปใช้เป็นแนวทางและประยุกต์ใช้กับเด็กที่มีความต้องการปกติที่อยู่ในความดูแลของตัวเองทั้งนี้ก็เพื่อที่จะส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในทุกๆด้านไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกายและจิตใจผ่านกิจกรรมและผลงานศิลปะรวมถึงดนตรีที่เราสามารถสร้างสรรค์ให้เด็กได้ด้วยตัวเอง กลับมาในการดูแลเด็กที่มีความต้องการพิเศษผู้ที่มีบทบาทสำคัญสำหรับการรับหน้าที่นี้ก็คือครูซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่นในการที่จะพัฒนาศักยภาพหมายใหม่ของตนเองทั้งทางด้านศิลปะดนตรีและทักษะการสังเกตเพื่อที่จะเติบโตไปพร้อมกับเด็กที่ตัวเองดูแลซึ่งแน่นอนว่าเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ที่ถูกนำมาใช้กันมากที่สุดและมันก็ได้ผลดีเสียด้วย หนังสือศิลปะสร้างสุขสามารถช่วยให้ครูต้องดูแลเด็กพิเศษได้เป็นอย่างดีทั้งความคิดความรู้สึกและการกระทำซึ่งในหนังสือเล่มนี้จะมีการรวบรวมเอาการฝึกทักษะทั้ง 3 ไว้ด้วยกันนั่นก็คือการสัมผัสความสมดุลและการเคลื่อนไหวสิ่งต่างๆเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่จะช่วยให้เด็กพิเศษตอบสนองความต้องการในการเรียนรู้ได้ดีขึ้น ศิลปะสร้างสุขได้บอกเอาไว้ว่าดนตรีเป็นเครื่องมือที่ดีดีเด่นต้องการพิเศษจะได้แสดงความรู้สึกภายในที่แท้จริงออกมาซึ่งบางอย่างอาจจะไม่สามารถบอกมาเป็นคำพูดแต่การถ่ายทอดผ่านเสียงดนตรีดังกว่าอารมณ์และการเคลื่อนไหวเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและสามารถสร้างความสุขให้กับเด็กๆกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดีเรียกว่าดนตรีบำบัดเป็นพรรคการพาเด็กๆออกจากโลกของเขามาสู่โลกภายนอกร่วมกันกับเราอย่างได้ผลดังนั้นในส่วนของครูผู้ดูแลดื่มจำเป็นที่จะต้องเข้าใจตัวเด็กเป็นอย่างมากที่เข้าใจเรื่องของการศิลปะความสุขให้มากที่สุดอีกด้วย การทำกิจกรรมดนตรีบำบัดถือว่าเป็นงานศิลปะอีกอย่างหนึ่งที่สามารถสร้างความสุขให้กับเด็กที่มีความต้องการพิเศษได้เป็นอย่างมากดนตรีจะเป็นตัวแทนของการออกคำสั่งให้ทำนั่นทำนี่ของครูผู้พูดดนตรีและจังหวะจะเป็นกิจกรรมที่เปิดพื้นที่ให้กับเด็กได้ฝึกทักษะของตัวเองได้เป็นอย่างดีนั้นเอง

คำถามยอดฮิตตลอดกาลเรียนศิลปศาสตร์ทํางานอะไร

คำถามนี้เป็นคำถามยอดนิยมของคนในสังคมสมัยก่อนที่ในปัจจุบันนี้คำถามนี้ก็ยังคงถูกถามขึ้นมาเป็นประจำสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่มักจะถามลูกเสมอที่ทราบว่าลูกตัดสินใจที่จะเรียนศิลปะเพื่อประกอบอาชีพไม่ว่าจะเป็นศิลปะในส่วนของคะแนนการวาดรูปการดนตรีหรือการแสดงรวมไปถึงสาขาอื่นๆด้วยความชอบหรือความรักในการเรียนศิลปะหรือสารที่มีพรสวรรค์ในด้านต่างๆเหล่านี้ก็ตามการเงินส่วนบุคคลภายนอกหรือผู้ปกครองส่วนใหญ่มักจะคิดว่าการเรียนศิลปะจากทำอาชีพอะไรได้ ส่วนของการเรียนศิลปะในฐานะของการเป็นนักเรียนหรือนักศึกษานั้นบอกเลยว่าการเรียนศิลปะแขนงไหนก็ตามร่วมกันมีความยากเหมือนกันและการเรียนศิลปะทุกแขนงไม่ได้มีอาชีพตายตัวแต่เราสามารถประยุกต์ใช้ศิลปะที่เราเรียนไปกับทุกๆอาชีพที่มีอยู่ในสังคมปัจจุบันนี้เพราะโดยปกติแล้วคนภายนอกความคิดว่าการเรียนศิลปะคือการเรียนวาดรูปดังนั้นผู้ใหญ่หลายคนจึงจะมีคำถามว่าเรียนไปแล้วจะไปทำงานอะไร ช่วงนี้อาจจะต้องทำความเข้าใจกันให้ดีก่อนว่าในส่วนของการเรียนศิลปะนั้นไม่ใช่มีแค่เฉพาะเรื่องของวาดรูปอย่างเดียวแต่เรายังคงจะต้องเรียนวิชาอื่นซึ่งเป็นวิชาพื้นฐานสำคัญในหมวดของคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์และสังคมรวมไปถึงภาษาอังกฤษแต่อาจจะมีการเรียนศิลปะเพิ่มขึ้นตามวิชาเอกที่เราเลือกดังนั้นในส่วนของการเรียนซึ่งถือได้ว่าค่อนข้างครอบคลุม การเรียนศิลปะถ้าจะประกอบอาชีพก็คือการเป็นศิลปินในส่วนคนที่เรียนออกแบบก็มีสายงานเฉพาะของตัวเองเป็นต้นว่าคนที่เรียนแฟชั่นดีไซน์ก็จะเป็นดีไซเนอร์หรือการเรียนออกแบบนิเทศศิลป์ก็จะมุ่งเน้นไปทางการทำงานกราฟฟิกอีกทั้งคนที่เรียนมาทางด้านสถาปัตยกรรม interior Design ก็จะมุ่งเน้นไปทางด้านการออกแบบและตกแต่งดังนั้นไม่ว่าเราจะเรียนศิลปะแขนงไหนวิชาเรียนต่างๆเหล่านี้ก็ถือได้ว่าเป็นศิลปะเช่นเดียวกันและอย่างที่เราจะเห็นตัวอย่างอาชีพและการเรียนข้างต้นเราจะพบว่าในสังคมปัจจุบันมีอาชีพเหล่านี้เป็นอาชีพที่ทําเงินได้เป็นอย่างดีและเป็นอาชีพที่กำลังมาแรงในยุคนี้ ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำความเข้าใจเพื่อสังคมมีความเปลี่ยนแปลงไปยุคสมัยที่เปลี่ยนไปแล้วในตอนนี้การประกอบอาชีพที่เรียกได้ว่าศิลปะหรือแม้กระทั่งการเต้นกินรำกินซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับการทำงานในสายอาชีพศิลปะของคนในสมัยก่อนจึงกลายเป็นสิ่งที่ดีและได้รับความนิยมในยุคนี้และมันเป็นอีกอาชีพที่สามารถทำเงินเลี้ยงดูตัวเองได้เป็นอย่างดีไม่แพ้กับอาชีพอื่นๆดังนั้นวันนี้การเรียนศิลปะจึงเป็นเรื่องที่สามารถตอบโจทย์สำหรับใครหลายๆคนในเรื่องของการประกอบอาชีพได้เป็นอย่างดีสำหรับคำถามที่ว่าเรียนศิลปะแล้วจะไปทำงานอะไร คำตอบก็คือเมื่อเราจบศิลปะแขนงใดก็ตามเราสามารถทำงานได้ทุกอย่างซึ่งถ้าจะพูดให้ถูกต้องบอกว่าคนที่เรียนศิลปะสามารถทำงานได้หลากหลายมากกว่าคนที่เรียนมาเฉพาะทางอีกด้วย